'กัญชาเพื่อการแพทย์' ถึง 'คุ้มครองแรงงานเหมาช่วง' ปี 2563 แต่ละมลรัฐของสหรัฐฯ มีการผ่านข้อริเริ่มอะไรบ้าง

Last updated: 9 พ.ย. 2563  | 

วันที่ 9 พฤศจิกายน 2563 - 10:22 น.


ตลอดปีที่ผ่านมามีข้อริเริ่มต่างๆ ที่น่าสนใจเสนอในสภาของมลรัฐต่างๆ ทั่วสหรัฐฯ ตั้งแต่เรื่องการอนุญาตใช้กัญชาทางการแพทย์, สิทธิในการทำแท้ง, การทำให้คนทำงานเหมาช่วงอย่างการขับรถผ่านแอพฯ ควรได้รับสวัสดิการและการคุ้มครองแรงงาน ไปจนถึงประเด็นสวัสดิการต่างๆ ของผู้คนไม่ว่าจะเป็นที่อยู่อาศัยราคาถูกและขนส่งมวลชน ในปี 2563 นี้มีรัฐไหนก้าวหน้าในเรื่องใด ผ่านร่างหรือไม่ผ่านร่างข้อริเริ่มตัวใดบ้าง


ในช่วงที่การเลือกตั้งสหรัฐฯ ร้อนแรง สื่อต่างประเทศนำเสนอมุมมองว่าในช่วงตลอดปีที่ผ่านมามีประเด็นต่างๆ ที่ถูกเสนอเข้าไปในการลงมติของแต่ละรัฐของสหรัฐอเมริกาในเรื่องใดบ้าง สาเหตุที่นำเสนอเรื่องนี้เพื่อสะท้อนให้เห็นว่าจุดยืนกลุ่มผู้แทนแต่ละรัฐของประเด็นต่างๆ เป็นอย่างไรบ้าง โดยที่ในปีนี้มีกรณีของ COVID-19 เกิดขึ้นทำให้มีการเสนอมาตรการหรือข้อริเริ่มต่างๆ น้อยกว่าปีอื่นๆ

ในรัฐอลาสกา มีการเสนอมาตรการที่เรียกว่า "มาตรการหมายเลข 1" ที่เป็นเรื่องของการขึ้นภาษีการผลิตน้ำมันที่นอร์ทสโลป ซึ่งมีการผลิตน้ำมัน 40,000 บาร์เรลต่อวัน แต่มาตรการนี้ไม่ผ่านร่าง

ในแอริโซนา มีข้อริเริ่มที่เรียกว่า "ญัตติ 208" ที่ผ่านร่างสำเร็จ ญัตติดังกล่าวนี้ระบุเสนอให้มีการเก็บภาษีรายได้ของคนที่มีรายได้สูงกว่า 250,000 ดอลลาร์ เพื่อนำมาเป็นงบประมาณการศึกษาและเงินเดือนครู ซึ่งมีการวิเคราะห์ว่าจะสามารถสร้างรายได้งบประมาณ 827 ล้านดอลลาร์ในช่วงปีแรกที่มีการเก็บเงินนี้

ในแคลิฟอร์เนียมีการเสนอข้อริเริ่มควบคุมการขึ้นราคาค่าเช่าที่ดิน หลังจากที่แคลิฟอร์เนียประสบปัญหาคนไร้ที่อยู่อาศัยและค่าเช่าที่อยู่แพง โดยที่ข้อริเริ่มดังกล่าวนี้เสนอว่าควรจะมีการห้ามไม่ให้มีการขึ้นค่าเช่าเกินกว่าร้อยละ 5 รวมเงินเฟ้อให้กับที่อยู่อาศัยที่มีอายุมากกว่า 15 ปี

แต่มาตรการดังกล่าวนี้ก็ไม่ได้รับเสียงสนับสนุนมากพอ มีการประเมินว่าส่วนหนึ่งน่าจะเป็นเพราะมีกลุ่มเจ้าของที่ดินในแคลิฟอร์เนียรวมตัวเป็นองค์กรคอยล็อบบีและสร้างความสับสนให้กับมาตรการนี้ อย่างไรก็ตามีบางส่วนประเมินว่ามาตรการนี้อาจจะยังไม่เพียงพอที่จะแก้ปัญหาได้และอาจจะยิ่งทำให้ปัญหาคนไร้บ้านหนักกว่าเดิมเพราะมันเป็นการจูงใจให้เจ้าของที่ดินเลิกปล่อยเช่า ทำให้มีที่อยู่อาศัยลดลง

ในแคลิฟอร์เนียยังมีข้อริเริ่มอีกเรื่องหนึ่งเกี่ยวกับความเป็นธรรมทางเศรษฐกิจ คือเรื่องการกำหนดให้คนทำงานขับรถรับส่งผ่านแอพพลิเคชันให้นับเป็นผู้รับจ้างเหมาช่วงและได้รับการคุ้มครองตามนโยบายแรงงาน ข้อริเริ่มตัวนี้ผ่านร่างสำเร็จ ทำให้จากเดิมที่บรรษัทกำหนดให้คนทำงานเหล่านี้เปรียบเสมือน "ผู้ประกอบการ" เพื่อเลี่ยงการให้สวัสดิการและการคุ้มครองพวกเขา แต่ในตอนนี้คนรับจ้างขับรถจากแอพฯ อย่าง Uber, Lyft และ DoorDash จะได้รับสวัสดิการและการคุ้มครองจากบรรษัทเหล่านี้ด้วย

การโหวตมาตรการต่อมาของแคลิฟอร์เนียคือข้อริเริ่มให้แทนที่การวางเงินประกันตัวแลกกับการใช้เทคโนโลยีและอัลกอริทึมในกาประเมินความเสี่ยงของผู้ต้องหาแทน ซึ่งมาตรการนี้ถูกโหวตตกไป เพราะมีความกังวลว่าการใช้เทคโนโลยีเช่นนี้ทำให้เกิดความเสี่ยงเรื่องความไม่แม่นยำและอาจจะถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือการคัดกรองบุคคลด้วยอคติทางเชื้อชาติสีผิวได้

อีกกรณีหนึ่งคือข้อริเริ่มด้านการถ่ายโอนงบประมาณไปใช้กับการสร้างทางเลือกใหม่ในกระบวนการยุติธรรมแทนการขังคุก โดยนำงบประมาณส่วนนี้ไปจัดให้กับบริการทางสังคม ข้อริเริ่มนี้ผ่านร่างการโหวตในลอสแองเจลิส

ในโคโรลาโด มีกรณีเสนอมาตรการห้ามทำแท้งสำหรับผู้มีครรภ์อายุ 22 สัปดาห์เว้นแต่ผู้ตั้งครรภ์จะเสี่ยงชีวิต แต่มาตรการนี้โหวตไม่ผ่าน อีกข้อเสนอหนึ่งคือข้อเสนอลดภาษีเงินได้จากร้อยละ 4.63 เป็นร้อยละ 4.55 และให้มีการลดภาษีในจำนวนน้อยกว่าร้อยละ 1 ต่อปีตั้งแต่ปีภาษีที่ 2563 เป็นต้นไปซึ่งข้อริเริ่มนี้ได้รับการโหวตผ่าน

ในฟลอริดาเพิ่งจะมีการผ่านมาตรการเกี่ยวกับค่าแรงขั้นต่ำ 15 ดอลลาร์ต่อชั่วโมง โดยจะมีการขึ้นค่าแรงนี้ภายในระบุเวลา 6 ปี ข้างหน้า ซึ่งทางผู้รณรงค์บอกว่ามันจะช่วยยกระดับชีวิตของคนทำงาน 1 ใน 4 ของรัฐฟลอริดาที่ส่วนใหญ่ทำงานภาคการบริการ

รัฐอิลินอยส์พยายามเสนอให้มีการแก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับการขึ้นภาษีกลุ่มคนที่รวยที่สุดผ่านการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่จะยุบการเก็บภาษีแบบอัตราคงที่ทุกรายได้เป็นอัตราก้าวหน้ามากขึ้น แต่ก็ถูกโหวตตกไป

รัฐหลุยส์เซียนามีการขอแก้ไขเพิ่มเติม 2 เรื่องเรื่องแรกคือให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อให้ไม่มีการคุ้มครองสิทธิในการทำแท้งระบุในรัฐธรรมนูญ ซึ่งได้รับการโหวตผ่าน อีกเรื่องหนึ่งคือการขอแก้ไขให้มีการขึ้นภาษีอสังหาริมทรัพย์กับผู้ผลิตน้ำมันซึ่งได้รับการโหวตผ่านอีกเรื่องหนึ่ง

เมืองพอร์ตแลนด์ รัฐเมน มีการโหวตสนับสนุนร่างเทศบัญญัติต่อต้านการสอดแนมใบหน้าจากเจ้าหน้าที่รัฐ ถือเป็นชัยชนะอีกขั้นหนึ่งของสิทธฺความเป็นส่วนตัว กลายเป็นบัญญัติหนุนคำสั่งห้ามไม่ให้ตำรวจหรือเจ้าหน้าที่รัฐใช้งานโปรแกรมสอดแนมด้วยการระบุตัวตนบุคคลผ่านใบหน้า เทศบัญญัติใหม่นี้จะอนุญาตให้ประชาชนฟ้องร้องต่อรัฐได้ด้วยถ้าหากพวกเขาเห็นการใช้เครื่องมือเหล่านี้จากภาครัฐ

แมสซาชูเซตส์ มีการผ่านร่างกฎหมายที่เรียกว่า "สิทธิในการซ่อมแซม" ซึ่งระบุให้ผู้ผลิตยานยนต์ต้องส่งข้อมูลเทคนิคเครื่องกลรวมถึงโทรสนเทศให้กับลูกค้าและร้านรับซ่อมรถอิสระด้วยนอกเหนือจากเดิมที่ส่งให้กับร้านค้ายานยนต์เพียงอย่างเดียว ซึ่งนั่นทำให้สามารถซ่อมเองทั้งจากลูกค้าหรือจากร้านซ่อมอิสระทำได้ง่ายขึ้น

มิสซิสซิปปีก็เพิ่งมีการผ่านร่างเทศบัญญัติรับรองให้สามารถใช้กัญชาในทางการแพทย์ได้ซึ่งมีผู้โหวตสนับสนุนอย่างท่วมท้น ทำให้หมอสามารถสั่งยาที่ทำมาจากกัญชาให้กับคนไข้ได้สำหรับคนไข้ที่เป็นโรคที่มีอาการก่อนเพลีย 22 ชนิด

อีกเรื่องหนึ่งที่มีการผ่านมติในมิสซิสซิปปีคือการเปลี่ยนธงของรัฐจากเดิมที่มีลักษณะแสดงถึงฝ่ายสมาพันธ์รัฐยุคสงครามกลางเมือง ให้กลายเป็นธงที่มีดอกแมกโนเลียซึ่งเป็นดอกไม้ประจำรัฐและมีรูปดาวสีเหลืองที่สื่อถึงรากเหง้าชนพื้นเมืองอเมริกันด้วย ผู้คนส่วนใหญ่ลงคะแนนประชามติสนับสนุนให้มีการเปลี่ยนแปลงธงเป็นแบบใหม่หลังจากใช้แบบเดิมมากว่า 126 ปีแล้ว ธงใหม่นี้ยังนับเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ให้การไม่ยอมรับมรดกการเหยียดเชื้อชาติสีผิวที่แฝงอยู่ในธงเก่าด้วย

นอกจากในมิสซิสซิปปีแล้วในนิวเจอร์ซีก็มีการผ่านร่างเสนอแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญเพื่อทำให้กัญชาถูกกฎหมาย ซึ่งจะเริ่มทำให้การครอบครองและการใช้กัญชาในเชิงสันทนาการเป็นเรื่องถูกกฎหมายภายในเดือน ม.ค. 2564 นี้

อีกรัฐหนึ่งที่มีการผ่านร่างข้อริเริ่มเกี่ยวกับยาเสพติดคือโอเรกอน ข้อริเริ่มแรกคือการนำร่องให้ใช้เห็ดขี้ควายในการรักษาทางการแพทย์ได้ ซึ่งเห็ดขี้ควายนี้เป็นเห็ดที่มีฤทธิ์ต่อระบบประสาทและจัดเป็นยาเสพติด ข้อริเริ่มที่สองคือมาตรการเลิกทำให้ยาเสพติดเป็นความผิดทางอาญาแล้วหันมาใช้วิธีการเน้นการบำบัดผู้ติดยาเสพติดแทน ทำให้การครอบครองยาเสพติดทั้งหลายกลายเป็นความผิดลหุโทษเท่านั้น และนำเงินจากโครงการกัญชาเพื่อการแพทย์ของรัฐมาใช้ในโครงการบำบัดผู้ติดยาแทน

อย่างไรก็ตามข้อริเริ่มข้อริเริ่มเกี่ยวกับการขึ้นภาษีผู้ประกอบการรายใหญ่เพื่อนำมาใข้เป็นทุนในการพัฒนาด้านการขนส่งมวลชนก็ถูกโหวตพับไปในเขตพอร์ตแลนด์ของรัฐโอเรกอน โดยที่นักรณรงค์ด้านความเป็นธรรมทางเชื้อชาติสีผิวมองว่ามันเป็นสิ่งจำเป็นที่จะทำให้นักเรียนนักศึกษาและคนรายได้น้อยมีขนส่งสาธารณะฟรีและมีการลงทุนในที่พักอาศัยที่ราคาเข้าถึงได้ แต่เรื่องนี้ก็ถูกต่อต้านจากบริษัทยักษ์ใหญ่อย่างไนกี

ในเท็กซัสก็มีข้อเสนอเรื่องเกี่ยวกับภาษีและการขนส่งสาธารณะเช่นกัน ซึ่งมีการผ่านร่างทั้ง 2 ข้อเสนอ ข้อเสนอแรกคือการขึ้นภาษีเพื่อนำมาเป็นทุนในการสร้างคมนาคมขนส่งใหม่รวมถึงรถไฟรางเบา และข้อเสนอที่สองคือการใช้เงินกู้ของเมืองมาสร้างโครงสร้างพื้นฐานสำหรับคนเดินเท้าและรถจักรยาน







อ้างอิง:

https://prachatai.com/journal/2020/11/90349



เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้