Last updated: 21 ต.ค. 2562 |
วันที่ 21 ตุลาคม 2562 - 14:00 น.
หลังจากที่ประเทศไทยปลดล็อค การปลูกและครอบครองกัญชามากขึ้น แม้จะยังไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์แต่ก็มีหลายกลุ่มที่เห็นผลประโยชน์จากอุตสาหกรรมธุรกิจกัญชาที่จะเติบโตอย่างมาก แต่คำถามก็คือผลประโยชน์เหล่านั้น จะตกอยู่กับกลุ่มทุนหรือเกษตรกร ไปติดตามจากรายงาน คุณวชิรวิทย์ เลิศบำรุงชัย
มีความเป็นไปได้ว่าในอนาคตกัญชาจะกลายเป็นหนึ่งในพืชเศรษฐกิจสำคัญของไทย ที่สร้างมูลค่าในตลาดสูงถึง 661 ล้านดอลลาร์สหรัฐใน ปี 2567 แต่คำถามก็คือ ใครจะได้ประโยชน์จากเม็ดเงินจากอุตสาหกรรมธุรกิจกัญชาเหล่านี้ จะเป็นกลุ่มเกษตรกร หรือ กลุ่มนายทุนอีกเช่นเคย
วิสาหกิจชุมชน เพลาเพลิน ในอำเภอคูเมือง จังหวัดบุรีรัมย์เป็นต้นแบบของการปลูกกัญชาในลักษณะของการร่วมกลุ่มเกษตรกร เพื่อส่งขายให้กับโรงพยาบาลคูเมือง ใช้ในการผลิตยา และน้ำมันกัญชาต่างๆ รายได้ตกอยู่กับเกษตรกร นี่เป็นตัวอย่างที่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข อนุทิน ชาญวีรกุล ยกเป็นโมเดลในการปลูกกัญชา แบบถูกกฎหมาย
แต่ในความเป็นจริง ไม่มีใครรู้ว่าใต้ดิน มีคนคิดที่จะปลูกกัญชาเป็นธุรกิจอีกจำนวนมากมายแค่ไหน อย่างน้อยที่สุดมีผู้เห็นโอกาสในอุตสาหกรรมกัญชาของไทย ซึ่งกำลังจะมีการจัดงานประชุมและแสดงนานาชาติเกี่ยวกับอุตสาหกรรมกัญชา ในวันที่ 18 พฤศจิกายนนี้
สวนทางกับ ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ ประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ เห็นว่าการเปิดเสรีกัญชา ควรจะจำกัดวงเฉพาะเกษตรกร โดยมีความเป็นห่วงว่า กลุ่มนายทุนจะเข้ามาหาผลประโยชน์จากกัญชาและทำให้ราคาของกัญชาสูง เกินกว่า คนทั่วไป ที่จะนำไปใช้ประโยชน์ได้
นี่จึงเป็นคำถามสำคัญอย่างมาก ในระหว่างที่เรากำลังจะเปิดเสรีกัญชาใครจะได้ประโยชน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข จะตอบคำถามนี้อย่างไร
คงต้องจับตาดูว่า ในระยะใกล้อีกปี หรือ 2 ปีข้างหน้าอุตสาหกรรมกัญชาจะมีแนวโน้มเป็นอย่างไร จนถึงเวลานั้นใครได้ประโยชน์จากการปลูกกัญชา ก็คงจะเห็นหน้าเห็นตา กันชัดเจนมากขึ้น
อ้างอิง: https://www.nationtv.tv/main/content/378747447/?ago=
21 ก.ย. 2563