หนังสือรักษาโรคด้วย กัญชงและกัญชา 3 พ.ค. 2562 011:41 น.
สำหรับผมกัญชาเป็นยาแก้ปวดชนิดหนึ่งที่ดีในวงการแพทย์ การศึกษาเรื่งองกัญชา รักษามะเร็งที่นายแพทยส์มยศ กติตมินั่คง และศาสตราจารย์ดร. ทนพ. กิตติพงษ์ เกิดฤทธิ์ ทำนั้นเป็นเรื่องน่าสนใจ
บริษัท อสุกะ ฟามาซูติคอล จำกัด จากญี่ปุ่น และบริษัท จีดับเบิ้ลยู ฟาม่า จำกัด จากอังกฤษ สองบริษัทยารายใหญ่ได้จดสิทธิบัตรสารสกัดจากกัญชาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว กัญชาจึงไม่ใช่แค่ยาแก้ปวดเท่านั้น แต่เป็นยารักษามะเร็งที่เป็นความหวังในการรักษาโรค ของมนุษย์ชาติ
ในฐานะอาจารย์ ผมยินดีที่ลูกศิษย์ลกูหาได้สร้างสิ่งที่เป็นประโยชน์กับชาวบ้าน ขอให้เดินหน้าทำความดีเช่นนี้ต่อไป อย่าท้อ อย่าหยุด ทำจากหัวใจและทำตาม ธรรมชาติ ด้วยความซื่อสัตย์ รับผิดชอบและน้ำใจ แล้วจะดีต่อมวลมนุษยชาติ
ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์ ดร.กระแส ชนะวงศ์
ทุกองค์ความรู้ที่คนๆ หนึ่งใช้เวลาสะสมมานั้นมีคุณค่ามาก และหากความรู้นั้น สามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตคนเราให้ดีขึ้นได้ คงจะดีไม่น้อยถ้าผู้เป็นเจ้าของความรู้นั้น นำมาแบ่งปัน
นายแพทย์สมยศ กิตติมั่นคง ผู้มีประสบการณ์การบำบัดโรคมะเร็งวิถีชาวบ้าน มีความสนใจในสรรพคุณของสารสกัดจากดอกกัญชา ที่สามารถช่วยบรรเทาอาการ ปวดและอาการข้างเคียงอื่นๆ อันเกิดจากการรักษาได้ คุณหมอรู้สึกเสียดายแทน คนไทยที่ยังไม่มีโอกาสใช้ของดีใกล้ตัว เพียงเพราะยังไม่มีกฎหมายมารองรับ จึงได้ รวบรวมข้อมูลเขียนหนังสือ กัญชา คือ ยารักษามะเร็ง เล่มนี้ขึ้นมาเพื่อเผยแพร่ ในวงกว้าง
บริษัท โกกรีน โซเชียล เวนเจอร์ จำกัด ในฐานะผู้จัดพิมพ์มีความเชื่อมั่นว่า ท่านผู้อ่านที่ไี่ม่ว่าจะมีประสบการณ์ตรงกับโรคมะเร็งหรือไม่ น่าจะได้รับมุมมองใหม่ ในการรักษาโรค รวมทั้งสามารถแนะนำให้ผู้ที่สูญเสียกำลังใจได้ทราบว่าพวกเขา ยังคงมีความหวังอยู่ในหนังสือเล่มนี้
บรรณาธิการ
ผมเสียดายที่ผมรู้ช้าไปว่ากัญชาคือยารักษามะเร็ง แต่ความรู้เรื่องกัญชา คือ ยารักษามะเร็งคงไม่ช้าเกินไปสำหรับอีกหลายๆ คนที่จำเป็นต้องใช้กัญชา เพื่อรักษา โรคที่ไม่มีทางรักษาให้หายขาดได้
หลายสิบปีที่ผ่านมาตั้งแต่ผมยังเป็นเด็ก ผมรับรู้มาโดยตลอดว่ากัญชาเป็น ยาเสพติด ผมไม่เคยสูบกัญชาแต่รู้ว่าเพื่อนบางคนสูบูกัญชา มีโฆษณามากมายที่ระบุ พิษภัยของกัญชา ที่น่าแปลกใจคือทำไมยังมีคนสูบกัญชามากมาย แต่คนสูบกัญชา กลับไม่ค่อยเจ็บป่วยเหมือนคนอื่น
มีผู้ใหญ่ท่านหนึ่งเล่าให้ผมฟังว่า เมื่อก่อนตอนที่ยังไม่มียารักษาโรคเอดส์ ฝรั่งที่เป็นโรคเอดส์จะนิยมมาเมืองไทยเพื่อสูบกัญชา เพราะโรคเอดส์จะทำลาย ภูมิคุ้มกันของร่างกายทำให้ร่างกายทรุดโทรม ผอมแห้งแรงน้อย แต่หลังจากที่ใช้ กัญชาแล้วกลับทำให้ร่างกายแข็งแรง รับประทานอาหารได้ อ้วนท้วน สมบูรณ์ขึ้น
ผลที่ตามมาก็คือ หลายรัฐในประเทศสหรัฐอเมริกาทยอยออกกฎหมาย ให้ประชาชนสามารถปลูกและซื้อกัญชามาใช้ในทางการแพทย์ คือ ใช้รักษาโรคได้
โดยมีใบสั่งแพทย์ นอกจากนี้บางรัฐในประเทศสหรัฐอเมริกาออกกฎหมายให้ ประชาชนสามารถซื้อกัญชามาสูบได้ ในลักษณะของ recreational หรือเพื่อ ความบันเทิงเหมือนซื้อบุหรี่มาสูบหรือซื้อสุรามาดื่มก็ถูกกฎหมายเหมือนกันในบาง ประเทศ กัญชาเป็นสิ่งถูกกฎหมาย สามารถปลูกและซื้อขายได้เหมือนสินค้าทั่วไป
อย่างไรก็ตาม ณ วันที่เขียนหนังสือเล่มนี้ กัญชายังเป็นสิ่งผิดกฎหมาย ในประเทศไทย ผู้เขียนไม่ได้สนับสนุนให้มีการกระทำผิดกฎหมายใดๆ ทั้งสิ้น ข้อมูล ต่างๆ ในหนังสือเล่มนี้ใช้เพื่อเป็นความรู้และเป็นข้อมูลในการศึกษาวิจัยเท่านั้น
นายแพทย์สมยศ กิตติมั่นคง
วิถีชีวิตของคนไทย ไม่ว่าจะอยู่ในสังคมเมืองหรือสังคมเกษตรกรรม
มักหนีไม่พ้นการดิ้นรนเพื่อหาปัจจัยสี่มายังชีพ ท้ายที่สุดแล้ววิถีแห่งการขวนขวาย สิ่งเหล่านั้น ก็กลายมาเป็นอัตลักษณ์ของแต่ละพื้นที่แบบไม่ทันรู้ตัว รวมไปถึงวิถิแห่ง การหาหยูกยามาเยียวยาโรคภัย
กัญชาในฐานะยาที่มนุษย์กำลังเรียนรู้และพยายามใช้รักษาโรคมะเร็ง แม้ไม่รู้ ว่าจะสำเร็จเมื่อไร แต่ผม...ในฐานะตัวแทนวิชาชีพ ก็ขอเป็นส่วนหนึ่งในการเผยแพร่ สรรพคุณุอีกอย่างของพืชชนิดนี้ และมีความยินดีอย่างยิ่งที่ไี่ด้ร่วมงานกับนายแพทย์ สมยศ กิตติมั่นคง ดร. วิโรจน์ เล้งรักษา และคุณวิทยา มิตรศรัทธา ในการสร้างสรรค์ หนังสือเล่มนี้
สุดท้ายนี้ขอชื่นชมความกล้าของทุกๆ ท่าน ที่ร่วมมือกันทำสิ่งนี้ ในขณะที่ กัญชายังเป็นสิ่งผิดกฎหมายในประเทศไทย และให้ความเป็นธรรมแก่กัญชา ไม่ปล่อยให้ตกเป็นผู้ต้องหาตลอดไป
ศาสตราจารย์ ดร.ทนพ.กิตติพงษ์ เกิดฤทธิ์
